ในชีวิตเราทุกคนจะต้องพบกับความยากลำบากและความพ่ายแพ้ และบางครั้งเราอาจตกหลุมพรางและรู้สึกผิดหวังและสิ้นหวัง เราควรตอบสนองอย่างไรในสถานการณ์นี้? People’s Daily แบ่งปันเคล็ดลับ 9 ข้อเพื่อช่วยให้เราหลุดพ้นจากอุปสรรคและฟื้นความหวังและแรงบันดาลใจอีกครั้ง ด้านล่างนี้ ฉันจะแนะนำวิธีการเหล่านี้โดยละเอียดให้กับคุณ
**ขั้นแรก เข้านอนแต่หัวค่ำ และตื่นแต่เช้า มีตารางเวลาสม่ำเสมอ และรักษาทัศนคติเชิงบวก ** การนอนหลับเป็นหนึ่งในความต้องการทางสรีรวิทยาที่สำคัญที่สุดของร่างกายมนุษย์ สามารถช่วยให้เราฟื้นฟูพลังงาน ปรับปรุงภูมิคุ้มกัน เพิ่มความจำ และความคิดสร้างสรรค์ หากเราเข้านอนดึกและตื่นสาย หรือนอนดึกโดยไม่ได้พักผ่อน จะส่งผลให้ร่างกายและจิตใจเหนื่อยล้าและเกิดความปั่นป่วน ส่งผลต่ออารมณ์และวิจารณญาณของเรา ดังนั้นเราควรพัฒนานิสัยการนอนที่ดี นอนหลับอย่างมีคุณภาพ 7-8 ชั่วโมงทุกวัน และตื่นแต่เช้าเพื่อต้อนรับวันใหม่ ในเวลาเดียวกัน เราต้องรักษาทัศนคติเชิงบวก ไม่ถูกรบกวนจากอารมณ์เชิงลบ แต่เชื่อมั่นในความสามารถของเราที่จะเอาชนะความยากลำบากและเผชิญกับความท้าทาย
**ประการที่สอง หาทางระบายอารมณ์ อย่าถูกควบคุมโดยอารมณ์ และเรียนรู้ที่จะยอมรับความเป็นจริง ** เมื่อเราเจอกับความทุกข์ง่ายที่จะมีอารมณ์ด้านลบบางอย่าง เช่น ความโกรธ ความเศร้า วิตกกังวล ความกลัว เป็นต้น หากปล่อยอารมณ์เหล่านี้ไม่ทัน อารมณ์ก็จะสะสมอยู่ในใจเรา สร้างความกดดันและภาระ เราจึงต้องหาวิธีที่เหมาะสมในการแสดงและระบายอารมณ์ เช่น พูดคุยกับญาติและเพื่อน การเขียนไดอารี่ วาดรูป ฟังเพลง ดูหนัง เป็นต้น ในเวลาเดียวกัน เราต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ของเราและไม่ปล่อยให้มันส่งผลกระทบต่อความมีเหตุผลและการตัดสินใจของเรา เราต้องยอมรับปัญหาและความยากลำบากที่มีอยู่จริงและหาทางแก้ไข
**ประการที่สาม ค้นหางานอดิเรกของคุณเองและทำสิ่งที่คุณชอบเพื่อสร้างความสุขและความปลอดภัยให้กับตัวเอง **มีสุภาษิตที่เข้ากันดีว่า “ดอกเบี้ยเป็นครูที่ดีที่สุด” เมื่อเรามีงานอดิเรกเป็นของตัวเอง เราก็จะมีแรงจูงใจและความหลงใหลที่จะอุทิศตนให้กับงานอดิเรก และได้รับความสุขและความพึงพอใจจากงานอดิเรกนั้น งานอดิเรกเป็นอะไรก็ได้ที่เราสนใจ เช่น กีฬา อ่านหนังสือ ท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนโปรแกรม เป็นต้น การทำสิ่งที่เราชอบจะทำให้เราสามารถพัฒนาทักษะและความสามารถของเรา และทำให้เรารู้สึกปลอดภัยและมั่นใจ
**ประการที่สี่ จงตื่นตัวและคิด อย่าทำตามอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า เรียนรู้ต่อไป และหลีกเลี่ยงการออกนอกเส้นทาง ** ในช่วงตกต่ำ เราอาจถูกอิทธิพลหรือล่อลวงจากโลกภายนอก และตัดสินใจเลือกผิดหรือหุนหันพลันแล่น ตัวอย่างเช่น การไล่ตามเป้าหมายที่ลวงตาหรือไม่สมจริง การมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นอันตรายหรือผิดกฎหมาย ความบันเทิงที่ไร้ประโยชน์หรือเป็นอันตราย เป็นต้น ทางเลือกเหล่านี้อาจช่วยให้เราลืมความกังวลชั่วคราวหรือรู้สึกตื่นเต้นได้ แต่อาจนำปัญหาหรือเสียใจมาให้เรามากขึ้น เพราะฉะนั้น เราจึงต้องมีจิตใจที่แจ่มใส คิดไม่ตามฝูงชนอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า แต่จงเรียนรู้และก้าวหน้าต่อไป และหลีกเลี่ยงทางอ้อมหรือหลงทาง
**ประการที่ห้า ทบทวนและไตร่ตรอง เรียนรู้จากความเจ็บปวด ทำการเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงตนเอง ** ช่วงเวลาที่ยากลำบากมักเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเราที่จะเติบโต เพราะมันช่วยให้เรามองเห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของเรา ตระหนักถึงข้อผิดพลาดและข้อบกพร่องของเรา และกระตุ้นศักยภาพและศักยภาพของเรา เราไม่ควรมองว่าการตกต่ำเป็นการลงโทษหรือความล้มเหลว แต่เป็นความท้าทายหรือโอกาส เราจำเป็นต้องทบทวนและไตร่ตรองประสบการณ์และพฤติกรรมของเราเอง ดึงบทเรียนและแรงบันดาลใจจากสิ่งเหล่านั้น และทำการเปลี่ยนแปลงและปรับเปลี่ยนที่เกี่ยวข้อง เราต้องใช้ภาวะถดถอยเพื่อปรับปรุงคุณภาพและระดับของเรา และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต
**ประการที่หก ตั้งเป้าหมาย อย่ารอช้า ก้าวแรกไปสู่ความฝันให้เป็นจริง **เฉพาะเมื่อคุณมีเป้าหมาย คุณก็มีทิศทาง เมื่อคุณมีทิศทาง คุณก็มีแรงจูงใจ เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนและเจาะจง เราจะมีความรับผิดชอบและภารกิจในการบรรลุเป้าหมาย และได้รับความรู้สึกถึงความสำเร็จและความสุขจากเป้าหมายนั้น เป้าหมายอาจเป็นอะไรก็ได้ที่เราต้องการบรรลุหรือทำให้สำเร็จ เช่น การสอบ การงาน การเริ่มต้นธุรกิจ ฟิตเนส เป็นต้น การตั้งเป้าหมายต้องยึดหลัก SMART คือ เป้าหมายต้อง **เฉพาะเจาะจง (เจาะจง) Mesurable (วัดได้) Achievable (บรรลุได้) ** R **ลักษณะสำคัญ (เกี่ยวข้อง) และ เวลาขอบเขตเวลา (ขอบเขตเวลา) หลังจากตั้งเป้าหมายแล้วเราควรลงมือทำทันทีโดยไม่ผัดวันประกันพรุ่งหรือหาข้อแก้ตัวและทำงานอย่างไม่หยุดยั้งจนกว่าเราจะตระหนักถึงความฝัน
**เจ็ด อ่านต่อไป เพิ่มพูนความรู้และสติปัญญา และมีพลังในการต่อสู้กับความทุกข์ ** การอ่านเป็นวิธีการเรียนรู้ที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุด มันสามารถขยายขอบเขตอันไกลโพ้นของเรา เพิ่มพูนความรู้ พัฒนาสติปัญญาของเรา และปลูกฝังอุปนิสัยของเรา ด้วยการอ่าน เราสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับผู้คนและสิ่งต่างๆ ทุกประเภท และได้รับแรงบันดาลใจจากพวกเขา การอ่านยังช่วยให้เราพบความสบายใจและมิตรภาพในช่วงเวลาตกต่ำ และทำให้เรามีความเข้มแข็งและความกล้าหาญในการต่อสู้กับความทุกข์ ไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับประเภทและเนื้อหาในการอ่าน เราสามารถเลือกหนังสือได้ตราบเท่าที่หนังสือเหล่านั้นมีประโยชน์หรือน่าสนใจสำหรับเรา ไม่มีเวลาและสถานที่ที่แน่นอนในการอ่าน คุณสามารถอ่านได้ทุกเมื่อที่มีเวลาว่างหรืออยู่ในอารมณ์
**ประการที่แปด ออกกำลังกายให้มากขึ้นเพื่อรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ปรับสภาพจิตใจ และรักษาร่างกายและจิตใจ ** การออกกำลังกายเป็นวิธีการดูแลสุขภาพที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพที่สุด ทำให้เรามีสุขภาพดีและป้องกันโรคต่างๆ ได้ การออกกำลังกายยังช่วยให้เราได้ปลดปล่อยความเครียดและปรับสภาพจิตใจของเราอีกด้วย การออกกำลังกายยังช่วยให้เราผลิตสารที่เรียกว่า “เอ็นโดรฟิน” ซึ่งทำให้เรารู้สึกมีความสุขและสบายใจ รวมถึงช่วยรักษาบาดแผลทางร่างกายและจิตใจด้วย ไม่มีวิธีการตายตัวและความเข้มข้นของการออกกำลังกาย คุณสามารถเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะกับคุณและนำมาซึ่งผลลัพธ์ได้
**เก้า เชื่อว่ารางน้ำไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่ หากผ่านมันไปได้ ก็จะได้เห็นดวงดาว ** สุดท้ายนี้ เราต้องมีความเชื่อในแง่ดีและหนักแน่นว่า รางน้ำเป็นเพียงช่วงหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่ทั้งชีวิตของเรา ระดับต่ำไม่ได้หมายความว่าเราล้มเหลวหรือไร้ความสามารถ เพียงแต่หมายความว่าเราต้องการความพยายามและการเติบโตมากขึ้น ความตกต่ำไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีความหวังหรืออนาคต แต่หมายความว่าเราต้องการความกล้าหาญและโอกาสมากขึ้น ความต่ำไม่ได้หมายความว่าเราอยู่คนเดียวหรือทำอะไรไม่ถูก แต่มันหมายความว่าเราต้องการการสนับสนุนและความรักมากขึ้น ตราบใดที่เราพากเพียรคงเห็นแสงดาวหลังรางน้ำอย่างแน่นอน และเราจะพาไปชมความงามเหนือรางน้ำอย่างแน่นอน
ความตกต่ำในชีวิตเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ไม่ควรกลัว ตราบใดที่เราใช้วิธีการที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เราก็สามารถหลุดพ้นจากปัญหาและได้ความหวังและแรงจูงใจกลับคืนมา
ลิงก์ไปยังบทความนี้: https://m.psyctest.cn/article/6Kdo7Od4/
หากบทความต้นฉบับได้รับการตีพิมพ์ซ้ำ โปรดระบุผู้แต่งและแหล่งที่มาในรูปแบบลิงก์นี้